top of page
organic skincare_trend_website_jpg-01.jp

สกินแคร์ออแกนิค

เทรนด์มาแรงเมื่อผู้ใช้อยากได้นวัตกรรมธรรมชาติที่ไม่ทำให้ผิวแพ้

Frontiers of Medicine เผยรายงานการวิจัยเมื่อปี 2019 ที่น่าตกใจอยู่เหมือนกันเมื่อพบว่า ทั้งหญิงและชายเกินครึ่งหนึ่งมีสภาพผิวแพ้ง่าย หากได้รับสารเคมีบางอย่างในสกินแคร์ก็จะแสดงอาการแพ้แตกต่างกันออกไป มีตั้งแต่อาการคัน ตึง แห้ง แสบร้อน ไปจนถึงผิวไหม้ ซึ่งปัญหาผิวบอบบางเช่นนี้ทวีความรุนแรงขึ้นตลอดสิบปีที่ผ่านมา

หลายคนเชื่อว่าสกินแคร์เป็นต้นตอของปัญหาสุขภาพหลายอย่าง เช่น อาการระคายเคือง ฮอร์โมนไม่สมดุล และสะสมความเป็นพิษ ทั้งนี้ก็อาจเป็นเพราะมีสารเคมีสังเคราะห์เป็นส่วนผสม ผู้บริโภคจึงเปลี่ยนใจไปหาสกินแคร์ออแกนิคที่มีส่วนผสมอย่างสารสกัดจากพืชหรือน้ำมันจากธรรมชาติซึ่งไม่ทำให้ผิวแพ้ 

และไม่ใช่เพียงแค่เรื่องสุขภาพหรือความปลอดภัยเพียงอย่างเดียวที่ทำให้สกินแคร์ออแกนิคได้รับความนิยมมากขึ้น มันยังเป็นผลมาจากการที่ผู้ใช้ให้คุณค่ากับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเพิ่มขึ้นด้วย สิ่งที่พวกเค้าใช้จะต้องไม่ทำให้ผิวแพ้และไม่ทำร้ายโลกไปพร้อมกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้ผลิตสกินแคร์จึงต้องหันกลับมาทบทวนผลิตภัณฑ์ของตนเองใหม่

organic skincare_trend_website_jpg-02.jp

 

ตลาดสกินแคร์ออแกนิคโลกเติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าจะโตได้เฉลี่ย 7% ต่อปี ไปจนถึงปี 2024 ซึ่งคาดว่ามูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นมาอีก 3.2 พันล้านดอลลาร์ เพราะผู้ใช้ต่างเป็นกังวลกับสารเคมีที่มีอยู่ในสกินแคร์และพยายามหาหนทางดูแลผิวพรรณตนเองไม่ให้แพ้ นี่จึงเป็นที่มาของความต้องการสกินแคร์ออแกนิคที่มาจากธรรมชาติ 

ที่สำคัญเทรนด์ออแกนิคเพิ่งจะอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้นเอง หลังจากที่ตื่นตัวกับอาหารออแกนิคมาได้สักพักแล้ว ทีนี้ก็ถึงคราวสกินแคร์ออแกนิคบ้าง เพราะผู้บริโภคไม่อยากได้รับสารเคมีที่อาจทำให้ผิวแพ้หรือส่งผลเสียอื่นกับร่างกาย โดยเฉพาะกับเจนมิลเลนเนียลที่มีความตื่นตัวอย่างมากและเฝ้าคอยติดตามผลิตภัณฑ์สกินแคร์จากธรรมชาติที่ออกใหม่ในตลาดอยู่เสมอๆ ยิ่งรายได้ของคนกลุ่มนี้มีแนวโน้มสูงขึ้น ก็ยิ่งทำให้พวกเค้าสามารถซื้อหาสกินแคร์คุณภาพดีที่มาจากธรรมชาติได้ง่ายขึ้น

organic skincare_trend_website_jpg-03.jp

 

ปัจจัยอีกอย่างที่ทำให้ตลาดสกินแคร์ออแกนิคขยายตัวไม่หยุด นั่นก็คือความก้าวหน้าของนวัตกรรม ซึ่งผู้ผลิตสกินแคร์ต่างทุ่มลงทุนพัฒนานวัตกรรมในผลิตภัณฑ์ออแกนิคของตนเองกันมากขึ้น

ทีนี้เราลองมาดูตลาดสกินแคร์ออแกนิคในภูมิภาคเอเชียของเรากันบ้าง Grand View Research คาดว่าตลาดสกินแคร์ออแกนิคในเอเชียมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 2.01 พันล้านดอลลาร์ ตลาดใหญ่คงหนีไม่พ้นเมืองจีน ผู้บริโภคชาวจีนให้ความสำคัญกับส่วนผสมออแกนิคกันมาก อย่างพวกพืชและสารสกัดต่างๆ ซึ่งเคยเป็นประเด็นในสังคมออนไลน์ จนมอยซ์เจอไรเซอร์ของที่นั่นถึงกับต้องเปลี่ยนส่วนผสม เพื่อให้ข้อความข้างขวดเปลี่ยนจาก “ส่วนผสมที่ได้รับการพัฒนามาจากห้องปฏิบัติการ” มาเป็น “สารสกัดจากธรรมชาติ”

ส่วนผู้บริโภคชาวไทยเองก็มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสกินแคร์ไม่ต่างจากที่อื่นเลยครับ ดูได้จากผลการสำรวจของ HKTDC กับชาวไทยจำนวนกว่า 1,004 คน เมื่อปีที่แล้ว ที่ยืนยันว่าผู้ใช้ชาวไทยต่างก็มองหานวัตกรรมสกินแคร์ที่ช่วยดูแลสุขภาพของตนเองไปพร้อมกับการช่วยโลกได้ด้วย นี่เองจึงเกิดความต้องการสกินแคร์จากธรรมชาติที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ

แบรนด์ผู้ผลิตสกินแคร์เองก็มีโอกาสตั้งราคาสูงได้หากหวังเจาะกลุ่มผู้ใช้พรีเมี่ยมหรือผู้ใช้ที่มีความต้องการเฉพาะ โดยนำเสนอนวัตกรรมสกินแคร์จากธรรมชาติและเป็นออแกนิคที่ทำให้ผิวไม่แพ้

ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ คงชัดเจนกับแบรนด์สกินแคร์แล้วว่าต้องพัฒนานวัตกรรมที่มาจากธรรมชาติและเป็นออแกนิคจึงจะเอาชนะใจผู้ใช้ที่ต่างก็อยากให้ผิวไม่แพ้และดีต่อสุขภาพทั้งของเราและของโลก โจทย์นี้จะไม่ยากเลยถ้าคุณได้ลองมาคุยกับเรา เพราะเรามีนวัตกรรมจากธรรมชาติที่พร้อมจะพัฒนาสกินแคร์ออแกนิคเพื่อคุณรออยู่แล้วครับ

organic skincare_trend_website_jpg-04.jp
bottom of page